เดินทางเยี่ยมโฮมสเตย์บ้านบุ่ง จ.มุกดาหาร

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนโฮมสเตย์บ้านบุ่ง หลังจากที่เห็นในเว็บไชต์มานาน ว่าบรรยากาศดี ที่พักอยู่ริมน้ำตามรูปที่เห็นนะครับ เริ่มต้นการเดินทางของผมจากหมอชิต 2 ซึ่งผมได้ซื้อตั๋วรถโดยสารปรับอากาศวีไอพี กรุงเทพฯ - มุกดาหาร(ม.4ก.) ราคา 829.- ผมเลือกที่นั่นคนเดียวครับเพราะวันที่เดินทางไปนั้นไปคนเดียวครับ เพราะเดินทางไปไม่กี่วันครับ ประมาณ 3 วัน ลักษณะของรถนั้นสวยงามครับ นั่งสบายเบาะกว้างดี ผมได้จองเวลา 21.30 น. ผมเดินทางถึงหมอชิตก็ประมาณ 1 ทุ่ม เศษๆ ก็รอขึ้นรถ ก็เก็บภาพบรรยากาศเรื่อยๆ ของหมดชิต 2 เพราะช่วงที่ผมเดินทางไปนั้น ตรงก็เทศกาลตรุษจีนพอดีครับ คนก็อาจจะเยอะชะหน่อยแต่ก็ไม่มากเท่ากับปีใหม่...

รถที่จะเดินทาง มาถึงแล้ว 21.30 น.

พร้อมออกเดินทางแล้ว

ได้เวลา 21.30 น. รถก็เทียบชานชลาแล้ว ที่ชานชลาหมายเลข 6 ครับ เป็นของรถ กรุงเทพ-มุกดาหาร แต่ตอนชื้อตั๋วอย่าลืมแจ้งคนขายด้วยนะครับว่าจุดลงที่ หนองสูง หรือหากจะจองผ่านเน็ต หรือบริการจองตั๋วของผู้ให้บริการอื่นๆ ก็อย่างลืมแจ้งจุดลงด้วยนะครับ พอขึ้นรถแล้วก็พนักงานก็จะต้อนรับพร้อมแจ้งเลขที่นั่งของเราว่านั่งตรงไหน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บริการดี ภายในรถโดยสารของ บ. ขนส่ง จำกัด (บขส999) คันนี้เป็นคันใหม่ครับ มี 2 ชั้น นั่งสบายดี ไม่อึดอัดเหมืออเมื่อก่อน ตอนนี้ บขส ก็เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่ดีขึ้น น่าใช้บริการมากถ้าเปรียบเทียบสมัยก่อน พอเราได้ที่นั่งเราแล้ว พนักงานก็จะบริการอาหารว่างเสริฟ์ ครับ 1 กล่อง ก็จะมีขนมปัง น้ำดื่ม กาแฟ น้ำส้ม ผ้าเย็น จะรวมมาให้ในกล่องครับ ใครที่อยากจะทางกาแฟก็แจ้งพนักงานว่าขอน้ำร้อน ตามมาด้วยผ้าห่ม เผื่อว่าดึกอาจจะหนาว แล้วพนักงานก็จะมาถามผู้โดยสารแต่ละท่านครับว่าจะลงที่ไหนบ้าง อย่าลืมแจ้งไปนะครับว่าลงที่ อ.หนองสูง ถ้ามีสัมภาระก็แจ้งด้วยนะครับถ้าเก็บไว้ใต้ท้องรถ เมื่อได้เวลาแล้วก็ล้อหมุนทันทีครับ จากหมอชิต 2 มุ่งหน้ายัง โฮมเสตย์ กันเลย ท่าทางวันนี้จะเป็นการเดินทางอีกนาน กะว่าประมาณ 6-7 ชม. ครับ รถออกแล้วก็ขอนอนก่อนนะครับ....

ออกจากหมอชิตมาได้สัพัก รถเริ่มชะลอตัวนิดหน่อย แต่ไปได้เรื่อยๆ

วิ่งได้เรื่อยๆ ยังไม่หลับเลยหยิบกล้องมาถ่ายอีกภาพ

เดินทางมาได้พักใหญ่ๆ ก็ได้ยินเสียงประกาศจาก พนักงานต้อยรับครับว่า ตอนนี้รถทัวร์ของเราได้เดินทางมาถึงจุดพักรถแล้ว (ที่โคราช เป็นจุดจอดรถวีไอพี) รถจะจอดพัก 20 นาทีครับ ผมดูนาฬิกาก็เวลา 01:15 นาที ใครที่อยากจะลงไปยืดเส้นยืดสายก็ไปได้ หรือหิวก็หาไรทานได้ ของฝากก็มี ส่วนตัวผมก็ลงไปเดินดูของครับ ว่ามีไรน่าสนใจบ้าง ที่สำคัญอย่าเดินเล่นเพลินจนลืมเวลานะครับ เพราะจะทำให้ผู้โดยสารท่านอื่นรอ ถ้าคนใดคนหนึ่งช้า เพราะก่อนออกรถพนักงานจะมาเช็คอีกครั้งครับว่าครบไหม
ถ้าครบก็ออกเดินทางต่อเลย ถ้าขาดก็ต้องรออีก ประกาศหาวุ่นวาย เสียเวลาครับ ตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ครับ ได้เวลาเดินทางอีกแล้วครับ ล้อหมุนแล้ว หลับต่ออีกนะครับ เพราะรอบนี้วิ่งยาวเลย

เวลา 06.30 น หรือ เกือบ 7.00 น ประมาณนี้ละครับ ก็เดินทางมาถึงจุดจอด อ.หนองสูง จะจดตรงป้อมตำรวจพอดีครับ เพราะจะมีด่านอยู่ตรงนี้ ถ้าใครที่เดินทางมามีเวลาอยากเดินดูสวนแสดงวัฒนธรรมคนผู้ไทก็แวะชมได้ครับ จะมีรูปปั้มของท้าวไกรสรราช จะมีตัวอย่างบ้านแบบโบราณ วัฒนธรรม ก็ลองแวะเยี่ยมชมได้ครับ

สว่างแล้ว ใกล้ถึงที่หมายแล้วครับ

บรรยากาศช่วงเช้า ระหว่างเดินทางใกล้ถึงที่หมาย

ตะวันตอนเช้าๆ บนรถทัวร์

ขึ้นเขา

ลงเขา

พอถึงจุดลงที่ หนองสูง ก็มีคนมารับครับ ที่โฮมเสตย์สามารถแจ้งได้ครับว่าถ้าเดินทางมาแล้วให้ทางเขามารับตรงจุดนี้ได้ เพราะต้องเดินทางเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งรายละเอียดก็มีใบเว็บไชต์แล้วนะครับ ก็สงสัยก็สามารถติดต่อสอบถามได้ตามเบอร์และอีเมล์ในเว็บไชต์ได้ครับ

แวะร้านขนมหน่อยหนึ่งครับ กำลังทำสดๆ ใหม่ๆ เลย ชื่อร้าน "พูนทอง ขนมหนองสูง"

มีขนมให้เลือกหลายอย่างครับ ส่วนมาจะไปขายที่ตลาด ผมก็แวะที่ร้านเลยกำลังจะไปส่งที่ตลาด อร่อย ครับ

แวะชิมขนมกันละ ก็เดินทางมาถึงโฮมสเตย์ ตอนที่ผมไปอากาศเย็นๆ หน่อยครับ เพราะบริเวณนี้ล้อมรอบด้วยภูเขา ซ้ายขาว แล้วยังอยู่ริมน้ำอีกครับ น้ำที่ว่านั้นคือ ห้วยบังอี่ ซึ่งด้านท้ายของหมู่บ้านเป็นฝายน้ำล้นขนาดใหญ่ ก็อุดมสมบูรณดีครับ ถึงที่พักผมก็ได้พักผ่อนก่อนนิดหนึ่ง แล้วกิจกรรมช่วงเช้านี้ผมจะแตระเวรดูวิถีชีวติกิจกรรมของชาวบ้านบุ่งที่นี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

บรรยากาศตอนเช้าครับ ริมห้วยบังอี่ มองเห็นภูเขาอีกฝากได้ สวยงามๆ

ได้เวลาผมก็ออกตระเวรครับ วันนี้ก็ได้แวะไปที่สวนแตงกวาของชาวบ้านที่ปลูกท้ายหมู่บ้านวึ่งปลูกแบบปลอดสารพิษเลยครับ ลูกใหญ่ เราสามารถเก็บไปรับประทานได้ กินสดๆ ในไร่เลย นอกจากนี้ก็มีการปลูกพืชชนิดอื่นๆ ด้วย เช่น ข้าวโพด ซึ่งตอนที่ไปนั้นก็ยังไม่ได้ออกผลครับ ตามรูปเลยครับ ข้าวนาปัง เพิ่งลงไปก็กำลังเขียวทีเดียว นอกจากนั้นก็ยังมีการจับปลาในลำห้วยครับ ซึ่งจะเห็นว่าปลาตัวใหญ่มากครับ แล้วก็ยังมีหอยด้วย เป็นหอยขวาน พืชชนิดต่างๆ ครับ ช่วงนี้อาจจะดูไม่เขียวเท่าไหร่ ไม่เหมือนช่วงฤดูฝนครับ เขียวสวยงาม ของกินเยอะครับ ชาวบ้านแนะนำมา วันที่ผมไปก็ได้ทานลาบหอยขวาน ต้มปลาห้วยบังอี่ รายการอาหานี้ช่วงเวลาชาวบ้านอาจจะหาได้ไม่ได้นะครับ หรือจะแจ้งล่วงหน้า แต่ก็อย่างว่าครับอาจจะไม่สด ถ้าโชคดีถ้าจับมาได้ก็ได้ทานครับ แล้วก็ยังมีตำแตงด้วยครับอร่อยดี สดๆ จากสวนเลยเก็บเอง ชาวบ้านที่นี้คิดราคา 10 บาท ครับ ได้เยอะทีเดียวเลือกเองได้ด้วย อ้อแล้วก็มีกุ้งด้วย ทำก้อยกุ้ง ก้อยหอยเชอรี่ ครับ อันนี้แล้วแต่ท่านครับว่าทานได้ไหม ถ้าอยากลองก็เป็นเรื่องที่ดีครับ ช่วงที่ไปใจจริงๆ ก็อยากกินแกงอ่อมหวายนะครับ บังเอิญไม่ได้กิน ต้องหาเวลาไปกินอีกครั้งครับ ต้องไปเที่ยวแต่ละช่วงจะได้เห็นบรรยาศที่ต่างๆ กิจกรรมอื่นๆ ครับ. (ถ้าไปช่วงนี้ยังมีเก็บแตงจากสวนนะครับ)

แตงสดๆ จากสวนเลยครับ ปลดสารพิษ ทานได้เลย อร่อย หวานกรอบครับ

อันนี้ที่นี่เขาเรียกว่า "บักถั่วแฮ"

สวยงามมากๆประมาณ เดือนมีนาคมนี้ คงเก็บเกี่ยวได้ ใครอยากแวะไปเก็บช่วยก็แวะไปครับ

หอยเชอรี่ครับ จากห้วยบังอี่ ลำน้ำที่เราเห็นนี่เอง เมนูวันนี้จะได้ทานก้อยกันครับ

หอยขมก็มีด้วย

หอยขวานครับ มาทำได้หลายเมนู ก้อย/ลาบ/ต้มยำ/ลวกทากะน้ำพริก อร่อยครับ คอนเฟิร์ม

พอตกเย็นผมก็ได้มีโอกาสไปวัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามอยู่ห่างจากโฮมสเตย์ประมาณ 8 กม. ซึ่งเป็นวัดที่ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ พระวิปัสสนาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม ได้ละสังขารด้วยอาการสงบตามเยี่ยงอย่างปฏิปทาของพระอริยเจ้าแล้ว หลังอาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อและโรคชรา เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๙ น. ขณะนำตัวส่งโรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จ.มุกดาหาร
สิริรวมอายุได้ ๑๐๒ ปี ๘ เดือน พรรษา ๗๓ ปิดอีก ๑ ตำนานพระป่าสายหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล-หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ผมก็ได้มีโอกาสไปกราบคารวะสรีระสังขารองค์หลวงปู่ท่านครับ ในการเดินทางไปครั้งนี้ หรือว่าท่านใดที่ต้องการมาก็สามารถไปได้เพราะศพของหลวงปู่จามจะเก็บไว้ก่อนจะถึงวันพระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๗ ช่วงนี้ก็มาได้ตลอดเลยครับ บอกได้เลยครับว่าคนเยอะมากๆ ช่วงเย็นๆ ช่วงเช้าๆ ไม่เท่าไหร่ และก็ยังมีโรงทานมากมายครับที่มา หากท่านใดที่เดินทางมาพักที่โฮมสเตย์ช่วงนี้ ทางโฮมสเตย์ก็ยินดีบริการพาไปครับ แจ้งทางโฮมเสตย์ไว้ครับ

เช้าวันต่อมาก็เดินทางไปที่ อ.เมืองมุกดาหารครับ ไปเดินเที่ยวตลาดอินโดจีน เที่ยวหอแก้วมุกดาหาร ชมวิวสองฝั่งโขงครับ และไปชมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่สอง ที่มุกดาหาร ตามที่ลงไว้ในเว็บนั้นผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวครบทุกจุดครับ เพราะมีเวลาจำกัด โอกาสครั้งต่อๆ ไปก็จะไปเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันอีกทีครับ ไปเดินเที่ยวตลาดอินโดจีนก็อย่าลืมแวะกราบไหว้ขอพรกับศาลเจ้าแม่สองนางด้วยนะครับ ตั้งอยู่บนถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขง ติดกับท่าด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหาร ศาลแห่งนี้เดิมเป็นศาลไม้ต่อมาได้มีการบูรณะเป็นศาลคอนกรีต ประวัติเล่ากันต่อมาว่ามีธิดาสองพี่น้องของเจ้าเมืองฝั่งลาวได้นั่งเรือข้าม มาจังหวัดมุกดาหารแล้วเกิดเรือล่มเสียชีวิตทั้งสององค์ จึงได้สร้างศาลไว้ที่ต้นตาลเจ็ดยอดเมื่อครั้งที่เจ้ากินรีสร้างเมือง มุกดาหาร ชาวจังหวัดมุกดาหารถือว่าศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่กับศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ชาวจังหวัดมุกดาหารจะจัดให้มีพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองและเจ้าแม่ สองนางพี่น้องพร้อมกัน (รายละเอียดบางที่ก็มีข้อมูลให้แล้วนะครับในเว็บไชต์นี้)

หลังจากได้ไปอยู่และสัมผัสวัฒนธรรมชาวบ้านและอาหารพื้นถิ่น บ้านบุ่ง จ.มุกดาหารแล้ว ก็ได้เวลาที่ผมจะต้องร่ำลาเดินทางกลับ กรุงเทพฯ แล้วครับ การเดินทางก็สะดวกสบายครับ จุดขึ้นรถก็เป็นที่ อ.หนองสูงครับ วันที่ผมกลับผมกลับตอนเช้าครับ จะมีบริการของ บขส เที่ยวเช้าครับ ประมาณ 9.00 น. ถึง กรุงเทพฯ ก็ประมาณ 6 โมงหกเย็นครับ เดินทางตอนกลางที่ผมเหลือเดินทางกลางวันผมก็อยากจะสัมผัสบรรยากาศช่วงเช้าดูบ้างครับว่า วิวสองข้างทางจะเป็นอย่างไร การเดินทางตอนกลางวันเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ดีครับ อาจจะร้อนหน่อยครับเพราะฝั่งที่ผมนั่งนั้นแดดส่องครับ แอร์เย็นดี แต่มองออกนอกหน้าต่างไมได้เพราะแดดส่องครับ ก็เลยขอนอนละกัน อาจจะมีบางช่วงบ้างที่แดดเปลี่ยนทิศก็ได้ดูบรรยากาศสองข้างถนนบ้าง ท้ายสุดก็เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ สิ้นสุดการเดินทางไปเยี่ยมโฮมสเตย์บ้านบุ่ง จ. มุกดาหาร ในครั้งนี้ครับ

ขอบคุณสำหรับการเดินทางครั้งนี้
บริการรถทัวร์ บขส 999, ผู้ใหญ่บ้านบ้านบุ่ง คุณบัญชี สุพรรณโมก, คุณอุทิน แสนสุข, คุณทูนทอง, และชาวบ้านบุ่งทุกๆ ท่านที่ให้การต้อนรับ พร้อมนำชมกิจกรรมต่างๆ