Update
recent

ผ้าหมักโคลน อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร


ผ้าหมักโคลน อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
“บ้านหนองสูง ถิ่นผู้ไท ความสวยงามของรากเหง้าที่เก่าแก่ ควรค่าแก่การมาเยือน”

“ผ้าหมักโคลน อ.หนองสูง” เป็นภูมิปัญญาของชนเผ่าภูไทอำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่โบราณกาลและยังคงสืบทอดเทคนิคการทำผ้าหมักโคลนมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเอกลักษณ์ผ้าทอมือเส้นใยธรรมชาติของบ้านหนองสูงเป็นที่รู้จักกันทั้งในประเทศ และต่างประเทศด้วย

ชาวบ้านหนองสูงถือเป็นต้นกำเนิดของการผลิตผ้าหมักโคลน ซึ่งมีการผลิตอยู่หลายชุมชน และหนึ่งในนั้นเป็นผู้ผลิตจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าดั้งเดิม ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้าย ผ้าไหมหมักโคลน โดยให้กลมกลืนกับรูปแบบการผลิตดั้งเดิม ของชาวภูไท เมืองหนองสูง ภายใต้เครื่องหมายการค้า “แก่นเข-เพกา”


สำหรับที่มาของผ้าหมักโคลน สมัยก่อนชาวบ้านไปหาปลาในหนองน้ำแล้วใช้แหเพื่อดักจับปลา แต่แหถักใหม่มีสีขาวทำให้ปลาว่ายหนีไปหมด ชาวบ้านจึงนำแหไปแช่ในโคลนเพื่อให้แหมีสีดำคล้ำ จึงได้ลองนำเทคนิคดังกล่าวไปใช้กับการทำผ้าทอ โดยนำผ้าไปหมักในโคลนเช่นเดียวกับแห และนำไปย้อมต่อด้วยสีธรรมชาติ ซึ่งพบว่าผ้าที่ผ่านการหมักด้วยโคลนจะได้สีสันที่แปลกไปจากผ้าที่ไม่ได้หมักโคลน ซึ่งเมื่อนำไปย้อมสีก็จะได้ผ้าที่มีสีสดมากขึ้น เพราะโคลนช่วยจับสีทำให้สีเข้มขึ้น และสีติดทนนาน
       
สำหรับโคลนที่ใช้ในการหมักนี้จะใช้โคลนที่หนองน้ำ บ้านหนองสูง ซึ่งเป็นดินโคลนที่มีอายุประมาณ 300-400 ปี ซึ่งโคลนในท้องถิ่นอื่นๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ควรใช้โคลนดินเหนียว และเนื้อโคลนต้องละเอียดไม่มีเม็ดดินเม็ดทรายปะปน


ส่วนขั้นตอนการทำผ้าหมักโคลนก็ไม่ได้ยุ่งยาก เพียงแต่มีหลายขั้นตอนต้องใช้ความอดทนในการทำ โดยเริ่มจากนำโคลนขึ้นมากรองด้วยตะแกรงเพื่อคัดกรองเอาพวกเม็ดกรวดเม็ดดินออก แล้วให้เหลือแต่เนื้อโคลนล้วนๆ จากนั้นนำไปผสมน้ำและเกลือตามความเหมาะสม คนให้เข้ากัน นำเส้นใยผ้าฝ้าย หรือผ้าไหมลงไปแช่ในโคลนที่เตรียมไว้ โดยใช้เวลาในการหมักประมาณ 3-6 ชั่วโมง ซึ่งสีของเส้นใยจะอ่อนหรือเข้มขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการหมัก เมื่อหมักได้เวลาที่ต้องการก็นำขึ้นมาบิด แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง พอเส้นใยแห้งก็นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำกลับไปตากแดดให้แห้งอีกครั้ง จากนั้นจึงนำไปทำการย้อมสีตามที่ต้องการ



ผ้าที่นำมาใช้หมักโคลนจะต้องเป็นผ้าทอเส้นใยธรรมชาติ และย้อมสีธรรมชาติ สีที่ได้มาจากการสกัดโดยใช้เปลือกไม้ไปแช่น้ำให้เปลือกไม้คลายสีออกมาแล้วนำไปต้มสกัดเอาน้ำสี จากนั้นก็ใส่เกลือ ทำการคนให้เข้ากันก็จะได้น้ำสีย้อม โดยผ้าหมักโคลนที่ทางกลุ่มทำออกจำหน่ายอยู่ในรูปของผ้าพันคอ และผ้าคลุมไหล่ จุดเด่นของผ้าหมักโคลนคือ เนื้อผ้าแห้งเร็วและเบาสบาย บวกกับความเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ จุดนี้เองทำให้เป็นจุดสนใจของลูกค้าต่างประเทศจำนวนมาก ในอดีตรูปแบบของผ้าหมักโคลนจะทำสำหรับเป็นผ้าห่อเด็ก เพราะคุณสมบัติแห้งเร็ว ปัจจุบันหันไปใช้ผ้าขนหนูเพราะต้นทุนผ้าทอมือแพง ซึ่งมีแผนที่จะนำรูปแบบของผ้าห่อเด็กกลับมาทำอีกครั้งถ้าลูกค้าต้องการ

“กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าดั้งเดิมบ้านหนองสูงเรามีสมาชิกจำนวน 32 คน ซึ่งแบ่งงานกันทำตามความถนัด ซึ่งทางกลุ่มจะออกแบบลายดั้งเดิมเป็นหลัก จะเพิ่มลายใหม่บ้างแต่ก็จะแทรกไว้ในลวดลายดั้งเดิม ส่วนสีจะเลือกสีตามฤดูกาลของพันธุ์ไม้ที่ออกมากในช่วงนั้นๆ




ขอบคุณข้อมูล
manager.co.th
thaipbs.or.th




Homestay Baanbung Mukdahan

Homestay Baanbung Mukdahan

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.